ที่มาของคำราชาศัพท์ที่ใช้ในปัจจุบัน
แบ่งออกเป็น 2
ประเภทคือ ในทางสังคมและประวัติศาสตร์ และในทางภาษา
2.2.1 ในทางสังคมและประวัติศาสตร์
อาจกล่าวได้ว่าราชาศัพท์ที่ใช้สำหรับพระเจ้าแผ่นดิน
และพระราชวงศ์มีวิวัฒนาการมาแต่โบราณ
ทั้งนี้เพราะประเทศไทยมีพระเจ้าแผ่นดินเป็นพระประมุขของชาติตลอดมาหลายร้อยปีแล้ว
ตั้งแต่กรุงสุโขทัย กรุงศรีอยุธยา กรุงธนบุรี และกรุงเทพมหานครในปัจจุบัน
หลักฐานทางประวัติศาสตร์รวมทั้งวรรณคดีในแต่ละยุคสมัยชี้ชัดว่า
ชนชาติไทยมีศรัทธามั่นคงในสถาบันพระมหากษัตริย์
มีความผูกพันแน่นแฟ้นอยู่กับพระเจ้าแผ่นดินและพระราชวงศ์กล่าวได้ว่า พระเจ้าแผ่นดินดำรงอยู่ในฐานะอันสูงเป็นที่เคารพสักการะก่อนที่ได้ตราไว้เป็นบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
พ.ศ. 2475
เป็นเวลาช้านาน
เมื่อความรู้สึกและค่านิยมของคนไทยที่มีต่อพระเจ้าแผ่นดินเป็นเช่นที่กล่าว
คนไทยย่อมจะต้องยกย่องเทิดทูนพระเจ้าแผ่ดินของตนไว้ในทุกๆด้าน
เฉพาะคำที่เรียกชื่อว่า พ่อขุน พระเจ้าแผ่นดิน เจ้าชีวิต พระเจ้าอยู่หัว
เหล่านี้ก็แสดงถึงความเคารพอย่างสูงอยู่แล้ว
ยิ่งศัพท์ในวรรณคดีที่คนไทยเรียกขานพระเจ้าแผ่นดินของตน
ก็ล้วนแต่เป็นคำที่มีความหมายลึกซึ้ง สะท้อนให้เห็นถึงความเคารพอย่างสูงทั้งสิ้น อาทิ
ทรงธรรม์ ทรงเดช ภูบดี ภูเบศวร์ ท้าวไท อธิราช
ฯลฯการใช้ราชาศัพท์เป็นวิธีการอันเป็นรูปธรรมอย่างหนึ่ง
เพื่อถวายพระเกียรติแด่พระเจ้าแผ่นดินให้สูงกว่าบุคคลอื่น
และถวายพระเกียรติแด่พระราชวงศ์และขุนนางที่ทำหน้าที่ต่างพระเนตรพระกรรณลดหลั่นลงไปตามลำดับด้วย
2.2.2 ในทางภาษา
เมื่อพิจารณาคำราชาศัพท์ทั้งปวงที่ใช้มาตั้งแต่อดีตจนปัจจุบัน
จะเห็นว่าคำราชาศัพท์ที่ใช้เรียกเครือญาติ ส่วนต่างๆของร่างกาย สิ่งของ
กิริยาอาการ และกิจกรรมต่างๆของพระเจ้าแผ่นดิน และราชวงศ์
มีที่มาจากคำไทยดั้งเดิมและคำที่ไทยรับมาจากภาษาอื่น ที่สำคัญคือ ภาษาบาลี
ภาษาสันสกฤต และภาษาเขมร คำที่มาจากภาษาอื่นนอกกจากสามภาษานี้มีไม่มากนัก
คำศัพท์เหล่านี้ส่วนใหญ่แล้วจะต้องนำมาตกแต่งเสียใหม่
จึงจะสำเร็จรูปเป็นคำราชาศัพท์โดยสมบูรณ์ ใช้สื่อสารไดตามขนบนิยม
คำที่ไม่ต้องตกแต่งใหม่แต่ใช้ได้เลยทันที มีไม่มากนักและไม่ใช่คำไทยดั้งเดิม
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น